ตัวอย่างหมวดบัญชี

รับทำบัญชี.COM | ผังบัญชี 5 มาตรฐานรหัสบัญชีบริษัทจำกัดร้านอาหารโหลดeXCEL?

Click to rate this post!
[Total: 809 Average: 5]

ผังบัญชี

ผังบัญชีมาตรฐาน

ผังบัญชีมาตรฐาน หรือ Standard Chart of Accounts (SCA) เป็นการจัดระบบการบัญชีขององค์กรให้มีโครงสร้างเหมือนกัน โดยเป็นการจัดหมวดหมู่หรือระบบต่างๆ เพื่อให้การบันทึกข้อมูลการเงินและการเดินบัญชีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง โดย SCAs มีหลักการจัดกลุ่มบัญชีอยู่ 3 ระดับหลัก ได้แก่

  1. หมวดบัญชีหลัก (Main account group) เช่น บัญชีสินทรัพย์ บัญชีหนี้สิน บัญชีทุนหมุนเวียน เป็นต้น
  2. หมวดบัญชีย่อย (Sub-account group) เช่น บัญชีเงินสด บัญชีลูกหนี้ต่างประเทศ บัญชีเจ้าหนี้การค้า เป็นต้น
  3. รายการบัญชี (Account item) เช่น เงินสดเปลี่ยนสภาพ ลูกหนี้ค้างชำระ เจ้าหนี้ค้างชำระ เป็นต้น

SCAs สามารถปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมและความต้องการขององค์กร โดยต้องไม่ละเว้นหรือเปลี่ยนแปลงหมวดหมู่หลัก และหมวดหมู่ย่อยที่กำหนดไว้ โดยสามารถปรับเปลี่ยนรายการบัญชีได้เท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้องค์กรมีระบบการบัญชีที่สอดคล้องกับหลักการสากลและสามารถนำไปใช้กับการบัญชีที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ผังบัญชีและรหัสบัญชี

ผังบัญชี (Chart of Accounts) คือ การจัดลำดับของบัญชีที่ใช้ในการบัญชีขององค์กร โดยปกติแล้วจะมีการจัดกลุ่มบัญชีตามลักษณะของรายการเงินหรือรายการทางการเงิน เพื่อความสะดวกในการเดินบัญชี และใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการเงินและสรุปผลกำไรขาดทุนขององค์กร

แต่ละบัญชีจะมีรหัสบัญชี (Account Code) เพื่อให้สามารถระบุแต่ละบัญชีได้อย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้ว รหัสบัญชีจะประกอบด้วยหลักหมายเลข หมวดหมู่หลัก หมวดหมู่ย่อย และรายการบัญชี ตัวอย่างเช่น หากมีบัญชีเงินสด รหัสบัญชีอาจจะเป็น ดังนี้

1-1-101 เงินสด

โดยหลักหมายเลข 1 แทนบัญชีสินทรัพย์ หมวดหมู่หลักหมายเลข 1 แทนสินทรัพย์หมุนเวียน หมวดหมู่ย่อยหมายเลข 1 แทนเงินสด และรายการบัญชีเป็นเงินสด

การใช้ผังบัญชีและรหัสบัญชีสามารถช่วยให้การบันทึกข้อมูลการเงินและการเดินบัญชีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถปรับแต่งผังบัญชีและรหัสบัญชีให้เหมาะสมกับกิจกรรมและธุรกิจขององค์กรได้ด้วย

ผังบัญชี ตัวอย่าง

นี่คือตัวอย่างผังบัญชีที่มีอยู่ในธุรกิจเล็กๆ ซึ่งประกอบด้วยหมวดหมู่หลัก หมวดหมู่ย่อย และรายการบัญชี:

หมวดหมู่หลัก 1: สินทรัพย์
– หมวดหมู่ย่อย 1.1: สินทรัพย์หมุนเวียน
– รายการบัญชี 1.1.1: เงินสด
– รายการบัญชี 1.1.2: เงินฝากธนาคาร
– รายการบัญชี 1.1.3: ลูกหนี้การค้า
– รายการบัญชี 1.1.4: สินค้าคงเหลือ
– หมวดหมู่ย่อย 1.2: สินทรัพย์ถาวร
– รายการบัญชี 1.2.1: อาคารสิ่งปลูกสร้าง
– รายการบัญชี 1.2.2: อุปกรณ์และเครื่องมือ
– รายการบัญชี 1.2.3: รถยนต์และรถบรรทุก
– รายการบัญชี 1.2.4: เครื่องจักรและอุปกรณ์

หมวดหมู่หลัก 2: หนี้สินและทุน
– หมวดหมู่ย่อย 2.1: หนี้สิน
– รายการบัญชี 2.1.1: เจ้าหนี้การค้า
– รายการบัญชี 2.1.2: เจ้าหนี้ธนาคาร
– รายการบัญชี 2.1.3: เจ้าหนี้อื่นๆ
– หมวดหมู่ย่อย 2.2: ทุน
– รายการบัญชี 2.2.1: ทุนจดทะเบียน
– รายการบัญชี 2.2.2: ทุนเรือนหุ้น
– รายการบัญชี 2.2.3: กำไรสะสม

หมวดหมู่หลัก 3: รายได้
– หมวดหมู่ย่อย 3.1: รายได้
– รายการบัญชี 3.1.1: รายได้จากการขายสินค้า
– รายการบัญชี 3.1.2: รายได้จากการให้บริการ
– รายการบัญชี 3.1.3: รายได้จากการลงโฆษณา
– หมวดหมู่ย่อย 3.2: ค่าใช้จ่าย
– รายการบัญชี 3.2.1: ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสินค้า
– รายการบัญชี 3.2.2: ค่าใช้จ่ายในการให้บริการ
– รายการบัญชี 3.2.3: ค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา
– หมวดหมู่ย่อย 3.3: ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
– รายการบัญชี 3.3.1: ค่าเช่าอาคารสำนักงาน
– รายการบัญชี 3.3.2: ค่าไฟฟ้าและน้ำประปา
– รายการบัญชี 3.3.3: ค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้า

ผังบัญชีตัวอย่างนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น องค์กรสามารถปรับแต่งผังบัญชีให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจและความต้องการของตนเองได้ โดยอาจมีหมวดหมู่หลักและหมวดหมู่ย่อยเพิ่มเติม หรือรายการบัญชีที่แตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ แต่ผู้ใช้งานควรรักษาหลักการของผังบัญชีและรักษาความถูกต้องของการบันทึกข้อมูลบัญชีเสมอ เพื่อให้ผลการวิเคราะห์และเอียดและสรุปผลการเงินที่ได้มาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานควรทบทวนและปรับปรุงผังบัญชีเป็นระยะๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในธุรกิจและสภาพแวดล้อมโดยรวม เช่น การเพิ่มหรือลดบริการ การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างบริษัท หรือการประกอบการในพื้นที่ใหม่

ในการจัดทำผังบัญชีและรหัสบัญชี องค์กรสามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการสร้างผังบัญชีและรหัสบัญชีได้ โดยมีหลายๆ โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการจัดทำผังบัญชีและรหัสบัญชี เช่น QuickBooks, Xero, Wave Accounting ฯลฯ ซึ่งเป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกและมีความสามารถหลากหลายในการจัดทำผังบัญชีและรหัสบัญชีให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง นอกจากนี้ ยังมีบริการจัดทำผังบัญชีและรหัสบัญชีโดยบริษัทที่เชี่ยวชาญในด้านการบัญชีและการเงิน ซึ่งองค์กรสามารถเลือกใช้บริการดังกล่าวเพื่อให้แน่ใจว่าผังบัญชีและรหัสบัญชีขององค์กรได้รับการจัดทำอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการนำไปใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจของตนเอง

ผังบัญชี 5 หมวด

สำหรับผังบัญชี 5 หมวด จะเป็นผังบัญชีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจ เพราะมีความง่ายและชัดเจน และเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง โดยประกอบด้วยหมวดหมู่หลัก 5 หมวด ดังนี้

1. สินทรัพย์ (Assets)
– สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets) เช่น เงินสด ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ และเงินฝากธนาคาร
– สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) เช่น อาคารสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์และรถบรรทุก และเครื่องจักรและอุปกรณ์

2. หนี้สินและทุน (Liabilities and Equity)
– หนี้สิน (Liabilities) เช่น เจ้าหนี้การค้า บัตรเครดิต และเงินกู้ธนาคาร
– ทุน (Equity) เช่น ทุนจดทะเบียน ทุนเรือนหุ้น และกำไรสะสม

3. รายได้ (Revenue)
– รายได้จากการขายสินค้า
– รายได้จากการให้บริการ
– รายได้จากการลงโฆษณา

4. ค่าใช้จ่าย (Expenses)
– ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสินค้า
– ค่าใช้จ่ายในการให้บริการ
– ค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา

5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (Other Expenses)
– ค่าเช่าอาคารสำนักงาน
– ค่าไฟฟ้าและน้ำประปา
– ค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้า

ผังบัญชี 5 หมวดนี้มีความง่ายและชัดเจน จึงเหมาะสำหรับการใช้ในธุรกิจขององค์กร

ผังบัญชี คือ

ผังบัญชี ภาษาอังกฤษ chart of account รายการบัญชีแยกประเภทเกี่ยวกับสินสันทรัพย์ หนี้สิน ทุน รายได้ และค่าใช้จ่าย ที่กิจการมีอยู่ในระบบบัญชีของกิจการ โดยจัดให้มีชื่อและหมวดหมู่บัญชีอย่างเป็นระเบียบ โครงสร้างบัญชีต่าง ๆ ที่ใช้ในระบบบัญชี โดยการให้ ชื่อและเลข ของบัญชีที่มีอยู่ทั้งหมด ของกิจการ จัดให้เป็นหมวดหมู่ อย่างมีระเบียบ บัญชีทั้งหมดแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ  ได้ดังนี้

รหัสบัญชีมีตัวเลขกี่ตัว

จากตัวอย่างนี้ จะใช้รหัสบัญชี เป็นตัวเลข 5 ตัว

ผังบัญชีประกอบไปด้วย ดังนี้

ชื่อบัญชีแยกประเภท ขึ้นต้นด้วยเลข
สินทรัพย์ 1
หนี้สิน 2
ส่วนของเจ้าของ (ทุน) 3
รายได้ 4
ค่าใช้จ่าย 5
ผังบัญชี

ผังบัญชี

ตัวเลขถัดไปหลังจากนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการกำหนดชนิดของบัญชีว่าเป็นประเภทใด แต่ควรแบ่ง ไล่จาก หมุนเวียน และตามด้วย ไม่หมุนเวียน เผื่อให้เป็นไปตามมาตราฐานบัญชี

ยกตัวอย่าง เช่น บัญชีแยกประเภท สินทรัพย์

  • กำหนดให้ 11 = บัญชีเงินสด
  • กำหนดให้ 12 = บัญชีรายการเทียบเท่าเงินสด
  • กำหนดให้ 13 = บัญชีลูกหนี้การค้า
  • กำหนดให้ 14 = บัญชีอุปกรณ์สำนักงาน

หมายเหตุ : ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกิจการแต่ละประเภทว่าควร มีการแบ่งรายการออกเป็นปลีกย่อย จำนวนเท่าใด กี่หลัก กี่เลขบัญชี

ผังบัญชี excel

การจัดหมวดหมู่ของบัญชี แบ่งเป็น 5 หมวด ได้แก่

  • 1. หมายเลข 1 = สินทรัพย์
  • 2. หมายเลข 2 = หนี้สิน
  • 3.หมายเลข 3 = ส่วนของผู้ถือหุ้น
  • 4. หมายเลข 4 = รายได้
  • 5. หมายเลข 5 = ค่าใช้จ่าย
หมวดบัญชี

หมวดบัญชี

หมวดที่ 1 สินทรัพย์

เลขที่บัญชี ชื่อบัญชี
11000 บัญชีเงินสด
12000 บัญชีลูกหนี้การค้า-ในประเทศ
12100 บัญชีลูกหนี้การค้า-ต่างประเทศ
13000 บัญชีวัสดุสิ้นเปลือง
14000 บัญชีเครื่องตกแต่งสำนักงาน
15000 บัญชีอุปกรณ์สำนักงาน
16000 บัญชีรถยนต์
17000 บัญชีอาคาร

หมวดที่ 2 หนี้สิน

เลขที่บัญชี ชื่อบัญชี
21000 บัญชีเจ้าหนี้การค้า (ระยะสั้น)
21100 บัญชีเจ้าหนี้การค้า (ระยะยาว)
22000 บัญชีเงินเดือนและค่าแรงค้างจ่าย
23000 บัญชีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ค้างจ่าย

หมวดที่ 3 ส่วนของเจ้าของ

เลขที่บัญชี ชื่อบัญชี
31000 บัญชีเบิกใช้ส่วนตัว
32000 บัญชีกำไรขาดทุน

หมวดที่ 4 รายได้

เลขที่บัญชี ชื่อบัญชี
41000 บัญชีรายได้จากการให้บริการ
42000 บัญชีรายได้เบ็ดเตล็ด

หมวดที่ 5 ค่าใช้จ่าย

เลขที่บัญชี ชื่อบัญชี
51000 บัญชีเงินเดือนและค่าแรง
52000 บัญชีค่าเบี้ยประกันภัย
53000 บัญชีค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
54000 บัญชีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
55000 บัญชีวัสดุสิ้นเปลืองใช้ไป
56100 บัญชีค่าเสื่อมราคา-อุปกรณ์สำนักงาน
56200 บัญชีค่าเสื่อมราคา-รถยนต์
56300 บัญชีค่าเสื่อมราดา-อาคาร
ค่าเสื่อมราคาอาจเริ่มด้วย 56100 เนื่องจาก 56000 ให้ถือว่าเป็นบัญชีคุม ค่าเสื่อมราคา

ผังบัญชีของแต่ละกิจการไม่จำเป็นต้องเหมือนกันอยู่ที่ลักษณะของการดำเนินงาน ความละเอียดของแต่ละองค์กร การกำหนดตัวเลขนี้เป็นที่นิยมใช้กัน และสามารถใช้ในการตัดสินใจในการบริหารงาน

100000 สินทรัพย์

    • 110000 สินทรัพยหมุนเวียน 
        • 111000 เงินสดและเงินฝากธนาคาร
          111100 เงินสด
          111200 เงินฝากธนาคาร
          111210 บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน
          111220 บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
          111230 ธนาคาร
          111300 รายการโอนระหว่างกัน
          112000 ลูกหนี้การค้าและตั๋วเงินรับ
          112100 ลูกหนี้การค้า
          112110 ลูกหนี้การค้า-ในประเทศ
          112120 ลูกหนี้การค้า-ต่างประเทศ
          112200 เช็ครับลงวันที่ล่วงหน้า
          112300 สำรองหนี้สูญ
          113000 ลูกหนี้กรมสรรพากร
          113100 ภาษีซื้อ
          113200 ลูกหนี้กรมสรรพากร
          113300 ภาษีซื้อยังไม่ถึงกำหนดชำระ
          113400 ภาษีซื้อรอตัดจ่าย(เช่าซื้อ)
          114000 สินค้าคงเหลือ
          115000 สินทรัพย์หมุนเวียน
          115100 ค่าใช้จ่าย จ่ายล่วงหน้า
          115110 ค่ากรมธรรม์จ่ายล่วงหน้า
          115120 ค่าสมาชิกจ่ายล่วงหน้า
          115200 ประมาณการภาษีเงินได้นิติบุคคล
          115300 ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย
          115400 ดอกเบี้ยค้างรับ
          115410 รายได้ค้างรับ
          115500 เงินประกันและเงินมัดจำ
          115600 เงินลงทุน
          116000 เงินทดรองจ่าย 
    • 120000 ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมแกกรรมการและลูกจ้าง 
        • 121000 เงินให้กู้ยืมแก่กรรมการและลูกจ้าง
    • 130000 เงินลงทุนบริษัท ฯ ในเครือ 
        • 131000 เงินลงทุนบริษัท
    • 140000 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์(สุทธิ) 
        • 141000 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์โรงงาน
          141010 ที่ดิน
          141020 อาคารระหว่างการก่อสร้าง
          141030 เครื่องจักรระหว่างติดตั้ง
          141110 ต้นทุนพัฒนาที่ดิน
          141120 อาคารและโรงงาน
          141130 ส่วนต่อเติมอาคารและโรงงาน
          141140 เครื่องจักร
          141150 ค่าตกแต่งและติดตั้งโรงงาน
          141160 เครื่องมือเครื่องใช้
          141170 ยานพาหนะ
          141180 ค่าติดตั้งระบบโทรศัพท์
          141190 ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและน้ำประปา
          141210 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ต้นทุนพัฒนาที่ดิน
          141220 ค่าเสื่อมราคาสะสม-อาคารและโรงงาน
          141230 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ส่วนต่อเติมอาคารและโรงงาน
          141240 ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร
          141250 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ค่าตกแต่งและติดตั้งโรงงาน
          141260 ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องมือเครื่องใช้
          141270 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ยานพาหนะ
          141280 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ค่าติดตั้งระบบโทรศัพท์
          141290 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและน้ำประปา
          142000 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สำนักงาน
          142010 ที่ดิน
          142020 อาคารระหว่างการก่อสร้าง
          142030 เครื่องสำนักงานระหว่างการติดตั้ง
          142110 ต้นทุนพัฒนาที่ดิน
          142120 อาคารและสำนักงาน
          142130 ส่วนต่อเติมอาคารและสำนักงาน
          142140 เครื่องใช้สำนักงาน
          142150 ค่าตกแต่งและติดตั้งสำนักงาน
          142170 ยานพาหนะ
          142180 ค่าระบบโปรแกรม
          142190 ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและน้ำประปา
          142210 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ต้นทุนพัฒนาที่ดิน
          142220 ค่าเสื่อมราคาสะสม-อาคารและสำนักงาน
          142230 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ส่วนต่อเติมอาคารและสำนักงาน
          142240 ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องใช้สำนักงาน
          142250 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ค่าตกแต่งและติดตั้งสำนักงาน
          142270 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ยานพาหนะ
          142280 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ค่าติดตั้งระบบโปรแกรม
          142290 ค่าเสื่อมราคาสะสม-ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและน้ำประปา
    • 150000 สินทรัพย์อื่น ๆ
        • 151000 รายจ่ายรอการตัดจ่าย
          152000 เงินมัดจำและเงินประกัน
          153000 ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย
          154000 เงินลงทุน
          155000 สินทรัพย์อื่น

200000 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น

    • 210000 หนี้สินหมุนเวียน
        • 211000 เจ้าหนี้การค้า
          211100 เจ้าหนี้การค้า-ในประเทศ
          211200 เจ้าหนี้การค้า-ต่างประเทศ
          211300 เช็คจ่ายลงวันที่ล่วงหน้า
          211400 เจ้าหนี้เงินยืมกรรมการ
          212000 เงินกู้ยืมธนาคาร
          213000 ทรัสรีซีพ
          214000 หนี้สินหมุนเวียนอื่น
          214100 เงินปันผลค้างจ่าย
          214200 ดอกเบี้ยค้างจ่าย
          215000 ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย
          215100 เงินประกันสังคมค้างจ่าย
          215200 ค่าภาษีธุรกิจค้างจ่าย
          215300 ภาษีหัก ณ ที่จ่ายค้างจ่าย
          215310 ภาษีหัก ณ ที่จ่ายค้างจ่าย ภ.ง.ด.1
          215320 ภาษีหัก ณ ที่จ่ายค้างจ่าย ภ.ง.ด.3
          215330 ภาษีหัก ณ ที่จ่ายค้างจ่าย ภ.ง.ด.53 0
          215400 ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายอื่น
          215500 ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มค้างจ่าย
          216000 เจ้าหนี้กรมสรรพากร
          216100 ภาษีขาย
          216110 ภาษีขายรอนำส่ง
          216200 เจ้าหนี้กรมสรรพากร
          216300 ภาษีนิติบุคคลค้างจ่าย
          216400 ภาษีธุรกิจเฉพาะค้างจ่าย
          217000 รายได้รับล่วงหน้า
          217100 เงินมัดจำรับล่วงหน้า
          217200 รายได้รับล่วงหน้า
          218000 หนี้สินอื่นๆ
    • 220000 หนี้สินระยะยาว 
        • 221000 หนี้สินอื่น
          222000 เจ้าหนี้ค่าสินทรัพย์

300000 ส่วนของผู้ถือหุ้น ทุน 1 คุม

    • 310000 ทุนเรือนหุ้น 
    • 320000 สำรองตามกฎหมาย 
    • 330000 กำไร(ขาดทุน) สะสม 
        • 331000 กำไร(ขาดทุน) สะสมจัดสรรแล้ว
          332000 กำไร(ขาดทุน) สะสมยังไม่ได้จัดสรร
    • 340000 กำไร(ขาดทุน) สุทธิ

400000 รายได้จาการขายสุทธิ รายได้ 1 คุม

    • 410000 รายได้จาการขายสินค้า 
        • 411000 รายได้จาการขายสินค้าเชื่อ
          412000 รายได้จาการขายสินค้าสด
          413000 รับคืนสินค้าและส่วนลดจ่าย
          414000 เพิ่มหนี้
    • 420000 รายได้จากการบริการ 
        • 421000 รายได้จากการโฆษณา
          422000 รายได้จากการให้บริการ
          422100 รายได้จากการจดทะเบียน
    • 430000 รายได้อื่น ๆ 
        • 431000 รายได้จากการขายเบ็ดเตล็ด
          432000 ดอกเบี้ยรับ
          433000 กำไร(ขาดทุน) จากการจำหน่ายสินทรัพย์
          434000 กำไร(ขาดทุน) จากการปริวรรตเงินตรา
          435000 เงินปันผล
          436000 รายได้อื่น ๆ

500000 ต้นทุนขาย

    • 511000 สินค้าคงเหลือต้นงวด 
        • 512000 ซื้อสินค้าสำเร็จรูป
          512010 ซื้อสินค้าสำเร็จรูป
          512100 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อ
          512200 ส่งคืนและส่วนลดรับ
          513000 สินค้าคงเหลือปลายงวด
          514000 ต้นทุนขายบริการ
          514100 ค่าวัสดุอุปกรณ์
          514200 ค่าแรงบริการ
          514300 ค่าไฟฟ้าน้ำประปา
          514400 ค่าโทรศัพท์
    • 520000 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 
        • 521000 ค่าใช้จ่ายในการขาย
          521010 ค่านายหน้าพนักงานขาย
          521020 ค่าโฆษณาและค่าส่งเสริมการขาย
          521030 ค่าเครื่องเขียนและแบบพิมพ์
          521040 ค่าไฟฟ้าและน้ำประปา
          521050 ค่าโทรศัพท์
          521060 ค่าโทรเลขและไปรษณียากร
          521070 ค่าเบี้ยประกันภัย
          521080 ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
          521090 ค่ารับรอง
          522000 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
          522010 เงินเดือนและค่าแรง
          522020 ค่าล่วงเวลา
          522030 โบนัส
          522040 สวัสดิการ
          522050 กองทุนเงินทดแทน
          522060 ประกันสังคม
          522070 ค่ายาและค่ารักษาพยาบาล
          522080 ค่าวิจัยและพัฒนา
          522090 ค่าธรรมเนียมเรียกเก็บ
          522100 ค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกัน
          522110 ค่าธรรมเนียมธนาคาร
          522120 ค่าธรรมเนียมส่งออก
          522121 ค่าอากรขาเข้า
          522130 ค่าภาษีรถ
          522140 ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม
          522150 ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ
          522160 ค่าภาษีโรงเรือน
          522170 ค่าภาษีต้องห้าม
          522180 ค่าใช้จ่ายยานพาหนะ
          522190 ค่าน้ำมัน
          522210 ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
          522220 ค่าถ่ายเอกสารและไปรษณียากร
          522230 ค่าเครื่องเขียนและแบบพิมพ์
          522240 ค่าวัสดุสิ้นเปลือง
          522250 ค่าใช้จ่ายคอมพิวเตอร์
          522260 ค่าเช่าจ่าย
          522270 ค่าเช่ารถ
          522280 ค่าโทรศัพท์ในประเทศ
          522290 ค่าโทรศัพท์ต่างประเทศ
          522310 ค่าไฟฟ้าและน้ำประปา
          522320 ค่าบริการจ่าย
          522330 ค่าจดทะเบียน
          522340 ค่าสมาชิก
          522350 ค่ารักษาความปลอดภัย
          522360 ค่าบริการทางธุรกิจ
          522370 ค่าตรวจสอบบัญชี
          522380 ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา-อาคาร
          522390 ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา-เครื่องใช้สำนักงาน
          522410 ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา-ยานพาหนะ
          522420 ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา-ตกแต่งและติดตั้ง
          522430 ค่าเสื่อมราคา-ต้นทุนพัฒนาที่ดิน
          522440 ค่าเสื่อมราคา-เครื่องมอและเครื่องใช้
          522450 ค่าเสื่อมราคา-ส่วนต่อเติมอาคาร
          522460 ค่าเสื่อมราคา-เครื่องใช้สำนักงาน
          522470 ค่าเสื่อมราคา-ค่าตกแต่งและติดตั้ง
          522480 ค่าเสื่อมราคา-ยานพาหนะ
          522490 ค่าเสื่อมราคา-ค่าติดตั้งระบบโปรแกรม
          522500 ค่าเสื่อมราคา-ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและน้ำประปา
          522510 ค่าใช้จ่ายในการตัดจ่าย
          522530 หนี้สูญ
          522540 ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
          522550 ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุ
          522570 ค่าบริจาคการกุศล
          522580 ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
          522590 ค่าภาษีซื้อไม่ขอคืน
    • 530000 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 
        • 531000 ดอกเบี้ยจ่าย
          532000 ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่าย
          532100 ภาษีธุรกิจเฉพาะ
          533000 ค่าเบี้ยปรับ,เงินเพิ่ม
          534000 ค่าใช้จ่ายต้องห้าม

ตัวอย่าง ที่จัดทำขึ้น เป็นตัวอย่าง ผังบัญชีบริษัทจํากัด ผังบัญชีร้านอาหาร ผังบัญชีอุตสาหกรรม ผังบัญชีโรงแรม เป็นผังบัญชีมาตรฐาน เนื่องจากแผนผังบัญชีที่จัดทำขึ้นใช้ชื่อตามผังบัญชีมาตรฐานการบัญชี คือ

ตัวอย่างผังบัญชี

ตัวอย่างผังบัญชี

บัญชีทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้

การกำหนดรหัสบัญชีในช่องที่ 3 ของสมุดรายวันทั่วไป เป็นช่องที่ใช้บันทึกเลขที่บัญชีของบัญชีต่างๆที่บันทึกไว้ในสมุดรายวันทั่วไป ซึ่งเลขที่บัญชีนี้จะต้องถูกกำหนดอย่างมีระบบโดยตามมาตรฐานโดยปกติทั่วไปแล้วเลขที่บัญชีจะต้องถูกกำหนดตามหมวดบัญชี โดยบัญชีทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้

หมวดที่ 1 หมวดสินทรัพย์ รหัสบัญชี คือ 1

หมวดที่ 2 หมวดหนี้สิน รหัสบัญชี คือ 2

หมวดที่ 3 หมวดส่วนของเจ้าของ รหัสบัญชี คือ 3

หมวดที่ 4 หมวดรายได้  รหัสบัญชี คือ 4

หมวดที่ 5 หมวดค่าใช้จ่าย รหัสบัญชี คือ 5

วิธีกำหนดผังบัญชี

  • หากเป็นบัญชี หมวดสินทรัพย์ เช่น เงินสด ลูกหนี้ ที่ดิน เลขที่บัญชีก็จะขึ้นต้นด้วย เลข 1
  • หากเป็นบัญชีหมวดหนี้สิน เช่น เจ้าหนี้ เงินกู้ระยะยาว หุ้นกู้ เลขที่บัญชีก็จะขึ้นต้นด้วย เลข 2
  • หากเป็นบัญชีหมวดส่วนของเจ้าของ เช่น ทุน ถอนใช้ส่วนตัว เลขที่บัญชีก็จะขึ้นต้นด้วย เลข 3
  • หากเป็นบัญชีหมวดรายได้ เช่น รายได้ค่าเช่า ดอกเบี้ยรับ รายได้อื่นๆ เลขที่บัญชีก็จะขึ้นต้นด้วย เลข 4
  • หากบัญชีหมวดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่า เงินเดือน ค่าสาธารณูปโภค เลขที่บัญชีก็จะขึ้นต้นด้วย เลข 5

แต่สำหรับเลขที่บัญชีจะมีจำนวนกี่หลักนั้น ขึ้นอยู่กับกิจการแต่ละกิจการ หากกิจการใดเป็นกิจการขนาดเล็กที่มีบัญชีต่างๆ อยู่เป็นจำนวนไม่มาก ก็อาจจะใช้เลขที่บัญชีจำนวน 2 หลัก โดยหลักแรกแสดงถึง หมวดของบัญชี และ หลักหลังแสดงถึงบัญชีต่าง ๆ ในหมวดนั้น ๆ เช่น เงินสด เลขที่บัญชี 11 เงินฝากธนาคาร เลขที่บัญชี 12 เป็นต้น

หากกิจการใดเป็นกิจการที่มีขนาดใหญ่และมีบัญชีต่างๆ เป็นจำนวนมากก็อาจจะกำหนดเลขที่บัญชีให้มีหลายๆ หลัก อาจจะเป็น 3 หลัก 4 หลัก หรือ มากกว่านั้นก็ได้ ซึ่งหลักแรกแสดงถึงหมวดของบัญชี หลักกลางแสดงถึงประเภทของบัญชีในหมวดนั้น ๆ หรืออาจจะไม่มีการแบ่งประเภทบัญชีก็ได้แต่ที่ต้องมีมากกว่า 2 หลักนั้น เนื่องจากว่าบัญชีต่างๆ ของกิจการมีจำนวนมาก สำหรับหลักหลังแสดงถึงบัญชีต่างๆ ในหมวดบัญชีและประเภทบัญชีนั้นๆ เช่น เงินสด เลขที่บัญชี 101 ที่ดิน เลขที่บัญชี 151 เป็นต้น

ตัวอย่างผังบัญชีบริษัท

ตัวอย่างผังบัญชีบริษัท

โดยที่ 1 แสดงให้เห็นว่าเป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์ 0 แสดงให้เห็นว่าเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน และ 1 แสดงให้เห็นว่าเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนอันดับที่ 1 คือ เงินสด สำหรับหลักหลังของเลขที่บัญชีในแต่ละหมวดนั้นก็จะถูกกำหนดด้วยหลักเกณฑ์แตกต่างกันไป

โดย หมวดสินทรัพย์นั้น หลักหลังของเลขที่บัญชีจะเรียงตามสภาพคล่องของสินทรัพย์ โดยเรียงจากสภาพคล่องมากไปหาสภาพคล่องน้อย เช่น เลขที่บัญชีของเงินสด จะมาก่อนเลขที่บัญชีของลูกหนี้ เป็นต้น

สำหรับ หมวดหนี้สิน หลักหลังของเลขที่บัญชีก็จะเรียงตามสภาพคล่องของหนี้สินเช่นกัน เช่น เลขที่บัญชีของเจ้าหนี้ จะมาก่อนเลขที่บัญชีของเงินกู้ระยะยาว เป็นต้น

สำหรับ หมวดส่วนของเจ้าของ หลักหลังของเลขที่บัญชีจะเรียงตามการเกิดขึ้นก่อนหลัง เช่นการที่เจ้าของนำสินทรัพย์มาลงทุนทำให้เกิดบัญชีทุน ก่อนที่เจ้าของกิจการจะถอนเงินออกไปใช้ จึงทำให้เลขที่บัญชีของบัญชีทุน มาก่อนเลขที่บัญชีถอนใช้ส่วนตัว

สำหรับ หมวดรายได้และหมวดค่าใช้จ่าย หลักหลังของเลขที่บัญชีจะเรียงความสำคัญของรายได้และค่าใช้จ่าย นั่นก็คือว่ารายได้และค่าใช้จ่ายหลักของกิจการที่เกิดขึ้นบ่อยๆ จะมากก่อนรายได้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง ซึ่งมีความสำคัญน้อยกว่า เช่น เลขที่บัญชีรายได้ค่าเช่าซึ่งเป็นรายได้หลักของกิจการให้เช่ารถ จะมาก่อนเลขที่บัญชีดอกเบี้ยรับซึ่งเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการที่กิจการนำเงินไปฝากธนาคาร เป็นต้น หรือเลขที่บัญชีของเงินเดือน จะมาก่อนเลขที่บัญชีของค่ารับรอง เป็นต้น

ผังบัญชี คือ

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )